ด้วยประสบการณ์ของคุณสิริอรซึ่งเปิดร้านอาหารไทยอยู่ที่อเมริกามาก่อนทำให้รู้และเข้าใจถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าต่างชาติอย่างดี เมื่อมีโอกาสกลับมาเปิดร้านอาหารที่ประเทศไทยอยากทำร้านให้ดูหรูหรา สวยงาม ดูสบายน่านั่ง คอนเซ็ปต์ของร้านเลยจึงถูกกำหนดให้ตกแต่งออกแนวยุโรป สวยงามอลังการ ซึ่งเป็นความตรงข้ามกันกับเมนูอาหารของร้านที่มีความเป็นไทยพื้นบ้านอีสาน แต่กลายเป็นความต่างที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากทั้งลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ ในมุมคนไทยมองในความแตกต่างจากร้านอาหารไทย-อีสานที่คุ้นชิน ส่วนในมุมชาวต่างชาติมองในความสะดวกสบาย

แม้แต่ชื่อร้าน “have a ซี๊ดดด” ก็เป็นความตั้งใจให้ลูกค้าเกิดคำถามในใจว่า “have a ซี๊ดดด” หมายถึงอะไร ซึ่งคุณสุภัค บอกว่าชื่อร้านสามารถมองได้ 2 มุมความหมายคือ มุมแรกหมายถึงรสชาติอาหารของร้าน มุมที่สองหมายถึงที่นั่ง เป็นการเล่นคำให้เกิดความน่าสนใจ

ปัจจุบัน “have a ซี๊ดดด” เปิดให้บริการ 3 สาขาคือ สาขา Terminal 21 สาขา Mercury Vill@ Chidiom สาขา The Street Ratchada และกำลังจะเปิดสาขา 4 ที่ ALL SEASONS PLACE เร็วๆ นี้ ซึ่งทุกทำเลที่เลือกเปิดร้านจะมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของร้านแตกต่างกัน อย่างเช่นที่สาขา Terminal 21 กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่บางวันถึงกับมีการต่อคิวรอเพื่อให้ได้ลองความแซ่บกัน คุณสุภัคเล่าให้ฟังว่า มีบ่อยครั้งถึงเวลาปิดครัวแต่ปิดไม่ได้เพราะลูกค้ายังยืนรอคิวหน้าร้านในครัวก็ต้องยอมลากยาวจนปิดร้านเพื่อให้ลูกค้าได้ทานอาหารครบทุกคน หรืออย่างสาขา Mercury Vill@ Chidiom ก็จะเป็นกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่ไม่ใช่ชาวจีนและกลุ่มพนักงานออฟฟิศเนื่องจาก “have a ซี๊ดดด” มีมาตรฐานการเสิร์ฟเมนูให้ลูกค้าภายใน 15 นาทีลูกค้าต้องได้เมนูตามที่สั่ง ทำให้อาหารของ “have a ซี๊ดดด” ออกเร็วจึงได้ฐานลูกค้ากลุ่มออฟฟิศค่อนข้างเยอะ เนื่องจากลูกค้ากลุ่มออฟฟิศมีเวลาค่อนข้างจำกัดในช่วงเที่ยง ดังนั้นการเสิร์ฟอาหารได้ไวจึงทำให้กลุ่มลูกค้าออฟฟิศติดสินใจเลือก “have a ซี๊ดดด” ง่ายขึ้น

คุณสุภัคยังเปิดเผยเคล็ดลับในการช่วยลดต้นทุนให้กับร้านด้วยว่า การเลือกช่องทางจัดซื้อวัตถุดิบก็สามารถช่วยให้ร้านลดต้นทุนได้ อย่างก่อนหน้านี้ร้าน “have a ซี๊ดดด” ก็เหมือนกับร้านอาหารทั่วไปคือ ไปซื้อวัตถุดิบถึงตลาดด้วยตัวเอง แต่กว่าจะได้ของครบตามต้องการใช้เวลาไปมาก แต่ปัจจุบันนอกจากจะสั่งตรงจากซัพพลายเออร์แล้ว อีกหนึ่งช่องทางที่ร้านใช้ประจำคือสั่งซื้อวัตถุดิบผ่าน “Makroclick” คุณสุภัคบอกว่าช่วยให้ประหยัดเวลาไปได้เยอะมาก ได้ของครบ ได้ของเร็ว ที่สำคัญคือสามารถรู้ได้ว่าสินค้าที่ต้องการมีชัวร์ จึงมองว่า “Makroclick” เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่หากร้านไหนยังไม่เคยใช้ต้องลองใช้ดู เพราะมีความสะดวกมากแค่สั่งผ่านหน้าเว็บ “Makroclick” รอรับของอยู่ที่ร้าน ซึ่งคุณสุภัคมองว่าถ้าในอนาคต “Makroclick” ให้บริการสั่งสินค้าได้ครบทุกประเภทก็จะยิ่งช่วยให้ผู้ประกอบการสะดวก ลดต้นทุนได้มากขึ้น 

ก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาสำหรับความตั้งใจทำให้อาหารไทย-อีสานเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติและความสำเร็จของร้าน“have a ซี๊ดดด”มีแนวทางเป็นไอเดียต่อยอดให้กับทุกท่านที่ทำร้านอาหารหรือกำลังจะทำร้านอาหาร ถึงตรงนี้ใครอยากลองความแซ่บของ “have a ซี๊ดดด” เราขอแนะนำ เมนูห้ามพลาดสารพัดเมนูส้มตำ และผัดหมี่ผักกระเฉดมันกุ้ง มันแซ่บขึ้นชื่อ ติดปากติดคอมากเลยจะบอกให้ ส่วนเมนูอื่นๆ อยากแซ่บต้องไปลอง